การลงทุนในหุ้นถือเป็นหนึ่งในวิธีที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงในระยะยาว แต่ในขณะเดียวกันก็มี “ความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้น” ที่มือใหม่ควรเข้าใจให้ถ่องแท้ก่อนตัดสินใจลงทุน เพราะหากไม่ตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้ อาจทำให้เกิดการขาดทุนหนักจนเสียกำลังใจในการลงทุนได้
ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจถึงประเภทของความเสี่ยงในการลงทุนหุ้น และแนวทางการรับมือเบื้องต้นสำหรับนักลงทุนมือใหม่ครับ
ประเภทของความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้น
1. ความเสี่ยงจากตลาด (Market Risk)
ความเสี่ยงจากตลาดหมายถึง ความผันผวนของราคาหุ้นที่เกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น ภาวะเศรษฐกิจ การเมือง อัตราดอกเบี้ย หรือแม้แต่ข่าวสารต่าง ๆ ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ ส่งผลให้ราคาหุ้นขึ้นหรือลงได้อย่างรวดเร็ว
2. ความเสี่ยงเฉพาะบริษัท (Company-Specific Risk)
ความเสี่ยงประเภทนี้เกี่ยวข้องกับปัจจัยเฉพาะตัวของบริษัท เช่น ผลประกอบการลดลง ผู้บริหารมีปัญหา หรือบริษัทประสบปัญหาทางการเงิน ความเสี่ยงนี้สามารถลดได้ด้วยการกระจายการลงทุนในหลาย ๆ บริษัท
3. ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk)
หุ้นบางตัวอาจมีปริมาณการซื้อขายน้อย ทำให้เมื่อถึงเวลาที่ต้องการขายหุ้นอย่างเร่งด่วน อาจไม่สามารถขายได้ในราคาที่เหมาะสม หรืออาจต้องขายขาดทุน
4. ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Risk)
อัตราดอกเบี้ยมีผลกระทบต่อการประเมินมูลค่าหุ้น หากอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว มูลค่าของหุ้นโดยเฉพาะหุ้นที่มีการจ่ายปันผลสูงอาจลดลงได้
5. ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Currency Risk)
สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ อัตราแลกเปลี่ยนมีผลต่อมูลค่าของพอร์ตลงทุน หากค่าเงินบาทแข็งตัวมาก อาจทำให้กำไรจากการลงทุนลดลงแม้ราคาหุ้นในต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นก็ตาม
6. ความเสี่ยงด้านจิตวิทยาการลงทุน (Emotional Risk)
มือใหม่จำนวนไม่น้อยตัดสินใจซื้อขายหุ้นตามอารมณ์ เช่น ความกลัว ความโลภ หรือความกดดันจากข่าวสารรอบตัว การขาดวินัยในการลงทุนจึงเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่สำคัญมาก
แนวทางการลดความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้น
กระจายการลงทุน (Diversification): ไม่ควรทุ่มลงทุนในหุ้นตัวเดียว ควรกระจายพอร์ตไปยังหลาย ๆ กลุ่มอุตสาหกรรม
- ศึกษาข้อมูลพื้นฐานหุ้น (Fundamental Analysis): เลือกลงทุนในบริษัทที่มีงบการเงินแข็งแรง มีการเติบโตสม่ำเสมอ
- วางแผนการลงทุนล่วงหน้า (Investment Planning): กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน วางแผนการซื้อขาย และกำหนดจุดตัดขาดทุน (Cut loss)
- บริหารอารมณ์ (Emotional Management): ยึดตามแผนการลงทุนที่วางไว้ หลีกเลี่ยงการซื้อขายตามอารมณ์ชั่ววูบ
- หาความรู้เพิ่มเติมเสมอ (Continuous Learning): การลงทุนหุ้นต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ การเรียนรู้เพิ่มเติมจึงเป็นหัวใจสำคัญ
“ความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้น” เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หากเราเข้าใจความเสี่ยงเหล่านี้และมีการบริหารจัดการอย่างเหมาะสม การลงทุนหุ้นก็จะเป็นเครื่องมือสร้างความมั่งคั่งในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับมือใหม่ที่ต้องการเรียนรู้การลงทุนอย่างถูกต้องและมีระบบ ผมขอแนะนำให้ศึกษาเพิ่มเติมผ่านคอร์สเรียนที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้นครับ
คลิกดูรายละเอียดคอร์สเพิ่มเติม >> คอร์สเรียนหุ้น คอร์สสอนหุ้น